Edvoy Thailand

Durham University รีวิว: ทำไมชีวิตนักเรียนไทยเหมือนอยู่ในโลก Harry Potter

   สวัสดีค่ะ พิงค์นะค้า จบ MSc Management (International Business), Durham University วันนี้ก็จะมาเล่าประสบการณ์เรียนที่ Durham University ให้ฟังค่ะ ตอนนั้นพิงค์ไปเรียนปี 2019-2020 ซึ่งในช่วงจบเทอม 2 โควิดก็มา ทำให้ ต้องกลับไทยกระทันหัน ไม่ได้เอาของกลับมาด้วยสักชิ้น ต้องจ้างขนส่งไปเก็บให้ แล้วก็ทำให้เสียโอกาสในการใช้ชีวิตไปเลยค่ะ เสียดายมากๆ แต่เดี๋ยวเราจะมาเล่า ชีวิต 7 เดือนที่ดีที่สุดในชีวิตให้ฟังกันค่ะ

   Durham คือเมืองเล็กมากๆ เอาจริงๆจากการที่ไปเที่ยวเมืองอื่นมาที่ว่าเล็ก ก็ยังเล็กไม่เท่า Durham เพราะ Durham ไม่ได้มีห้าง ไม่ได้มี Primark ไม่มี M&S แต่เอาจริงๆ ไม่ได้รู้สึกเหงา หรือรู้สึกขาดอะไรเลยสักนิดค่ะ เพราะถึงเมืองจะเล็ก แต่ในเมืองก็มีครบทุกอย่างที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต และ Durham เนี่ยติดเมืองใหญ่อย่าง Newcastle นั่งรถไฟแค่ 15 นาทีเอง ซึ่งสะดวกสบายมากๆ Newcastle มีทุกอย่าง เวลาจะช็อปปิ้ง หรืออยากทานอาหารที่ใน Durham ไม่มี เราก็จะนั่งรถไป Newcastle กันค่ะ แต่การอยู่เมืองเล็กก็มีข้อดีนะคะ คือ ไม่วุ่นวายเลยค่ะ ใช้ชีวิตได้สงบสุขมาก รวมถึง ด้วยความที่เมืองก็มีแค่นั้น ทำให้เราสนิทกับเพื่อนๆมากค่ะ เพราะว่าไปไหนก็จะเจอกัน หอที่ฮิตๆของคนไทยก็มีไม่กี่หอ อย่างปีนั้น พิงค์อยู่ที่หอ Student Castle ค่ะ เปิดใหม่ปีนั้นเลย แล้วก็อยู่ใกล้ city centre มากๆ สะดวกสบาย มีกิจกรรมที่หอบ่อย คนไทยก็อยู่ที่นี่กันเยอะ
ปาร์ตี้กันบ่อย ทำอาหารกินด้วยกันบ่อยๆค่ะ สนุกมาก

   มาถึงคำถามว่า ทำไมถึงเลือก Durham University เอาจริงๆอย่างแรกเลยที่ทำให้สนใจยูนี้ คือ Ranking ค่ะ เพราะแร้งกิ้งดีมาก เป็นมหาลัย Top 5 ของ UK (Complete University Guide 2026)  และมหาลัย Top 100 ของโลก   ( QS World Ranking 2026)  มหาลัยเป็นที่รู้จักและคอนเนคชั่นที่นี่ก็ดีมากๆค่ะ เพื่อนดีมาก เป็นเด็กเรียน เด็กเก่ง แต่ก็ใช้ชีวิตค่ะ ไม่ได้เครียดหรือเนิร์ดเกินไป อย่างที่สอง และเป็นอย่างสำคัญที่ทำให้เลือกมหาลัยนี้ ก็คือ Durham University เป็น Collegiate System ซึ่งระบบนี้ originally จริงๆแล้ว จะมีแค่ Oxford Cambridge และ Durham เท่านั้นค่ะ ระบบนี้ถ้าให้พูดง่ายๆ คือให้จินตนาการถึงเรื่อง Harry Potter ค่ะ คือเขาจะแบ่งนักเรียนเป็นบ้านๆ โดยจะมี 17 colleges ด้วยกันค่ะ และหากนักเรียน  เลือกอยู่หอใน ก็จะต้องอยู่หอในของ college นั้นๆที่เราเลือกค่ะ ซึ่ง college ที่พิงค์เลือกคือ University College หรือเรียกอีกชื่อว่า Castle College ค่ะ College นี้จะมีทั้งเด็ก ป.ตรี และ ป.โทเลยค่ะ เวลาทำกิจกรรม เราก็มีโอกาสจะได้เจอเด็กปตรีด้วย ซึ่งเด็ก British จะเรียนตรีกันเยอะค่ะ ส่วนอีก college ที่ค่อนข้างฮิตสำหรับเด็กไทยคือ Ustinov College แต่ college นี้จะเป็นของเด็กปริญญาโทเท่านั้นค่ะ แต่ละ college เขาก็จะมีการจัดกิจกรรมให้ไปร่วมจอยกันค่ะ

   มาเล่ากิจกรรมให้ฟังกันดีกว่า ว่าเราประทับใจอะไรบ้าง อย่างแรกเลยคือ Matriculation หรือพิธีรับนักศึกษาใหม่ค่ะ อันนี้จะอยู่ในช่วง induction week เลย เราจะได้เข้าไปใน cathedral ทีละ college ค่ะ หลังจากนั้นเราก็จะแยกกันกลับไปที่ college กันค่ะ ระหว่างทางเดินไปที่ university college ที่ตั้งอยู่ที่ Durham Castle ก็จะมีสมาชิกใน college มารอต้อนรับตลอดทางเลย อบอุ่นมากๆค่ะ ซึ่งพิธีนี้ เราก็ต้องใส่กาวน์สีดำไปร่วมงานด้วยนะคะ จะมีแค่ไม่กี่ college ที่จะต้องใส่กาวน์เวลาออกงานค่ะ อย่าง Ustinov ไม่ต้องใส่ค่ะ แต่เพื่อนๆก็จะใส่เป็นสูทหรือเดรสกันค่ะ 

 

   ซึ่งอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราชอบมากๆ คือ “Formal Dinner” ซึ่งมันจะมี Formal Dinner รวม 1 ครั้งสำหรับ นักเรียนใหม่ เป็นการทานดินเนอร์ใน Durham Castle ค่ะ นักเรียนใหม่ทุกคนจะได้เข้าช่วง welcome week ค่ะ ใครจะไป Durham ก็อย่าลืมเตรียมชุดสวยๆ ไปเข้า Formal Dinner กันด้วยนะคะ แต่หลังจากนั้น แต่ละ college ก็จะมีจัด formal dinner อีกเรื่อยๆค่ะ ส่วนเด็ก University College จะพิเศษหน่อยคือ Formal dinner  จะจัดใน Durham Castle และจัดแทบทุกวีคเลยค่ะ โดยจะจัดประมาณ 2 วันต่อวีค แต่ก็จะมีค่าเข้าค่ะ อีกหนึ่งความพิเศษคือเด็ก University College จะสามารถพาเพื่อนเข้า Formal Dinner ได้ 2 คนค่ะ และเวลาเราเข้า Formal Dinner ของ University College เราจะต้องใส่กาวน์สีดำเข้าไปด้วยค่ะ บรรยากาศมันเลยเหมือนอยู่ใน Harry Potter มากๆเลย แล้วตอนเข้า Formal Dinner ก็จะมีกฎอยู่กฎนึงคือ ห้ามใช้โทรศัพท์ระหว่างทานดินเนอร์ค่ะ หากเห็น เขาก็จะยึดเลยค่ะ เพราะว่ามหาลัยต้องการให้เราให้ความสำคัญกับคนตรงหน้าค่ะ อาหารจะเป็นคอร์สๆค่ะ มาเป็นซุป main course แล้วก็ของหวานค่ะ และก่อนเริ่มก็จะมีพิธีด้วยค่ะ  แต่อันนี้ก็คือข้อมูลช่วงปี 2019 นะค้า ไม่แน่ใจว่าตอนนี้จะเปลี่ยนไปรึยัง

   มาพูดถึงการเรียนกันบ้าง คือ เราเรียน Business School การเรียนจะแยกออกเป็นห้อง Lecture และห้อง Seminar ค่ะ ห้อง Lecture คือค่อนข้างใหญ่มากๆ เด็ก Management ก็จะมีวิชาที่ต้องเรียนรวมกันหมดด้วย และเราก็จะมีแยกเป็นห้อง seminar เล็กๆสำหรับแต่ละวิชาค่ะ ในคลาสจะมีประมาณ 10-15 คน และเราก็จะได้ discuss และทำ present กันในช่วง seminar ค่ะ เอาจริงๆตอนแรกที่ไป แอบเครียดนะคะ เพราะว่ามีแต่เพื่อนเก่งๆทั้งนั้นเลย เราต้องอ่านหนังสือในทุกๆวัน ต้องอ่านเตรียมบทเรียนไปก่อน และกลับมาอ่านทบทวนในแต่ละวัน แต่ในช่วงเทอมสองก็ปรับตัวได้มากขึ้นไม่ตึงเกินไปค่ะ

   ส่วนอีกหนึ่งประสบการณ์ที่เราว่าดีมากๆคือ supervisor เราดีมากๆค่ะ ในช่วงทำ dissertation มันเครียดมากๆ รวมถึงช่วงนั้นเป็นช่วงโควิดต้องกลับมาทำที่ไทยด้วย ร้องไห้กันเป็นหลายยกเลย ทำไปก็โดนแก้ตลอด แต่พอคะแนนออกมาก็ดีมากๆ ทำให้เราจบด้วย Distinction มาได้ค่ะ เพราะ supervisor ก็จะเป็นหนึ่งในคนที่ให้คะแนนเราด้วยค่ะ และที่พีคกว่านัน้คือ supervisor ชอบงาน dissertation ของเราค่ะ เขาเลยขอเอางานของเราไปร่วม revise กับอาจารย์อีก 3 ท่าน ปรับมาเป็น acdemic journal ที่ใครก็สามารถเข้ามาอ่าน และ reference ได้ค่ะ เราใช้เลากันอยู่ปีนึง ในการปรับ และกว่าจะ publish ค่ะ ได้ร่วมงานกับาจารย์หลายท่านที่มาจากมหาลัยอื่นๆ ประเทศอื่นๆ และผลงานเราก็ถูกตีพิมพ์ หากน้องๆคนไหนเรียนสาย IB ก็สามารถมา reference งานวิจัยพี่พิงค์ได้นะค้า

   พิงค์ได้มีโอกาส กลับไป Durham อีกทีในปี 2022 ค่ะ ไปรับปริญญา หลังจาก มหาลัยเลื่อนมาเรื่อยๆเพราะโควิดค่ะ เสียดายที่ตอนนั้นเพื่อนๆก็ไม่ค่อยบินกลับไปรับปริญญากันแล้ว งานรับปริญญาก็ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่มีการซ้อมค่ะ ใบปริญญายังไม่มีเลย555 เพราะเขาส่งมาให้ตั้งแต่ตอนปีที่จบแล้วค่ะ อันนี้ก็คือเหมือนไปเป็นพิธีเฉยๆ และเราก็ได้ไปทาน Formal Dinner ของ University Collge ครั้งสุดท้ายด้วยค่ะ สำหรับเด็กที่ไปรับปริญญาโดยเฉพาะ รู้สึกคิดถึงมากๆค่ะ และล่าสุดก็ได้กลับไปในปี 2024 อีกครั้ง ในฐานะพี่ consellor ไปเยี่ยมน้องที่ส่งไปค่ะ บรรยากาศของเมืองก็ยังอบอุ่นเช่นเคย แต่ก็มีอะไรเปลี่ยนไปเยอะ เช่นมีตึก Business School เปิดใหม่แล้ว แล้วร้านคาเฟ่ที่เป็นไฮไลท์ของเมืองอย่าง Flat White Kitchen ก็มีเปิดสาขาใหม่เพิ่มแล้วค่ะ ใครไป Durham แนะนำให้ไปลองร้านนี้เลยค่ะ และจากที่ร้าอาหารไทยมีหลายร้านอยู่แล้ว รอบนี้ก็มีร้าน Zapp มาเปิดแล้วค่ะ ใครชอบทานอาหารไทยไม่ต้องห่วงเลย เพราะอาหารไทยที่ Durham อร่อยทุกร้านเลยค่ะ

   ในช่วงเวลาที่อยู่ที่ Durham ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตเลยค่ะ เราได้กลุ่มเพื่อนที่ดีมากๆ ไปไหนไปกัน อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา ห่างกันแค่ตอนหลับเท่านั้นค่ะ55 เราได้ทำกับข้าวกินด้วยกัน เล่นบอร์ดเกมส์ด้วยกัน ไป road trip ต่างเมืองด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ และต่อให้จบมานานแล้ว เราก็ยัง keep connection กันอยู่ค่ะ

📩 เรียนต่ออังกฤษ (Study in UK) 📩

เรียนต่อปริญญาตรี-ปริญญาโท-ปริญญาเอกอังกฤษ 

ทักเข้ามาได้เลย!ปรึกษาและบริการฟรีทุกขั้นตอน~

“เรียนต่อต่างประเทศ ต้อง Edvoy Thailand เท่านั้น”

ลงทะเบียนเพื่อรับคำปรึกษา

Contact Home